fbpx

เช็ก 10 สัญญาณเตือนอาการข้อเข่าเสื่อม แบบไหนต้องหาหมอ ?

โรคข้อเข่าเสื่อม ทำให้เกิดอาการปวดเข่า บวม แดง ข้อเข่าตึง มีเสียงดังที่ข้อเข่า

อาการข้อเข่าเสื่อมไม่ได้เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุเท่านั้น แต่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนวัยอื่น ๆ ด้วย หากปล่อยปละละเลยและไม่รักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ อาการอาจทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ ดังนั้น การสังเกตสัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึงอาการข้อเข่าเสื่อมจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้อาการลุกลามและรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม

บทความนี้จึงอยากจะพามาเช็ก 10 สัญญาณเตือนอาการข้อเข่าเสื่อม แบบไหนต้องรีบหาหมอ แล้วใครอยู่ในกลุ่มเสี่ยงของอาการข้อเข่าเสื่อมบ้าง มาเช็กลิสต์กัน !

เช็ก 10 สัญญาณเตือนข้อเข่าเสื่อม อาการแบบไหนควรหาหมอ ?

สำหรับคนที่กังวลกับปัญหาข้อเข่าเสื่อม ควรเช็กสัญญาณเตือนเหล่านี้โดยด่วน จะได้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย  

1. เข่ามีเสียงกรอบแกรบเวลาเคลื่อนไหว

โดยปกติแล้วร่างกายของคนเรา บริเวณระหว่างผิวข้อเข่าจะมีกระดูกอ่อนเคลือบผิวข้อและหมอนรองเข่าอยู่ ทำหน้าที่รองรับน้ำหนัก กระจายแรงกระแทก และป้องกันไม่ให้ผิวกระดูกชนกันโดยตรง ช่วยให้ข้อเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่น อย่างไรก็ตาม ในผู้สูงอายุหรือผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุบริเวณข้อเข่ามาก่อน หมอนรองกระดูก และกระดูกอ่อนเคลือบผิวข้อมักจะค่อย ๆ เสื่อมสภาพลง ทำให้ผิวกระดูกเสียดสีกันโดยตรง ก่อให้เกิดเสียงกรอบแกรบขึ้นทุกครั้งที่ข้อเข่าเคลื่อนไหว

2. ข้อเข่าฝืด เหยียดหรืองอเข่าลำบาก

ข้อเข่าฝืดขัด ขยับเคลื่อนไหวลำบากก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนอาการข้อเข่าเสื่อมที่ควรเฝ้าระวัง ไม่ว่าจะเป็นการเหยียดหรืองอขาแล้วรู้สึกติดขัด ซึ่งมักเกิดขึ้นในตอนเช้าหลังตื่นนอน หรือหลังจากนั่งท่าเดิมเป็นระยะเวลานาน ๆ สาเหตุหลักเกิดจากการที่กระดูกอ่อนเสื่อมสภาพ ทำให้น้ำหล่อเลี้ยงในข้อเข่าน้อยลง การขยับเคลื่อนไหวจึงทำได้ไม่คล่องแคล่ว นอกจากนี้ การที่หมอนรองกระดูกได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ก็อาจทำให้การเคลื่อนไหวของข้อไม่ราบรื่นด้วย

3. ข้อเข่าติด งอหรือเหยียดได้ไม่สุด

ในรายที่ข้อเข่าเริ่มเสื่อม การงอเข่าอาจทำได้เพียงครึ่งช่วงเท่านั้น และเมื่อพยายามงอให้มากขึ้น อาจรู้สึกปวดแปลบขึ้นมาทันที สาเหตุที่ทำให้ข้อเข่าติดมาจากกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นรอบเข่าอ่อนแรง ทำให้กระดูกต้นขาและกระดูกหน้าแข้งเลื่อนทับซ้อนกันมากเกินไป เมื่องอเข่าจึงทำให้กระดูกเสียดสีและขัดกัน

4. ปวดเสียวภายในข้อเข่า

อาการปวดเสียวภายในข้อเข่าเป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ที่เริ่มมีปัญหาข้อเข่าเสื่อม โดยมีสาเหตุหลักมาจาก 2 ประการ

  • การตึงตัวของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า : เนื่องจากเมื่อข้อเข่าเริ่มทรุดตัว กล้ามเนื้อจะต้องเกร็งตัวค้ำประคองน้ำหนักอยู่ตลอดเวลา หากเป็นแบบนี้ไปเป็นระยะเวลานาน จะทำให้กล้ามเนื้อตึงแน่นและเกิดอาการปวดขึ้น
  • เกิดการเสียดสีของผิวกระดูกภายในข้อเข่า : เนื่องจากกระดูกภายในข้อเข่า มีเส้นประสาทรับความรู้สึก เมื่อกระดูกเสียดสีกันจะทำให้เกิดอาการปวดแปลบขึ้น นอกจากนี้ การเสียดสีกันของกระดูกอาจกระตุ้นให้ร่างกายสร้างกระดูกงอกใหม่ขึ้นมา ซึ่งกระดูกที่งอกขึ้นมานี้ อาจทิ่มแทงเข้าไปในเนื้อเยื่อรอบข้อ ทำให้เกิดอาการปวดมากขึ้น

5. กล้ามเนื้อเข่าอ่อนแรง

กล้ามเนื้อเข่าอ่อนแรง ก็เป็นสัญญาณเตือนของอาการข้อเข่าเสื่อมเช่นกัน สำหรับคนไข้ที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมมาเป็นเวลานาน จะส่งผลให้ไม่กล้าลงน้ำหนักที่ข้อเข่าอย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้กล้ามเนื้อรอบเข่า โดยเฉพาะกล้ามเนื้อต้นขาไม่ค่อยได้ออกแรง จนกระทั่งกล้ามเนื้อต้นขามีอาการฝ่อลีบลง

6. ปวดข้อเข่าเวลานอน

อาการปวดข้อเข่าในเวลากลางคืนหรือขณะนอนหลับ เป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม เกิดจากการเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนในข้อเข่า ส่งผลให้เกิดการอักเสบ ระคายเคือง และปวดบริเวณข้อ

อาการปวดมักจะรุนแรงขึ้นขณะที่เราพักผ่อนหรือนอนหลับ เนื่องจากมีการกดทับและเสียดสีของกระดูกในขณะนอน จนอาจส่งผลทำให้นอนไม่หลับได้ 

7. ข้อเข่ามีอาการปวดบวมอักเสบ

อาการข้อเข่าบวมร่วมกับอาการปวด เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการสะสมของของเหลวภายในหรือรอบ ๆ บริเวณข้อเข่า ซึ่งอาจเกิดจากการอักเสบ บาดเจ็บ หรือติดเชื้อ เมื่อสังเกตด้วยตาเปล่า จะเห็นข้อเข่าบวมโป่งพองผิดปกติ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของอาการข้อเข่าเสื่อมได้

8. ขาโก่ง งอ ผิดรูป

อาการขาโก่ง งอ ผิดรูป เกิดจากกระดูกอ่อนผิวข้อเข่าด้านใดด้านหนึ่งสึกหรอบางลงมาก จนทำให้ช่องข้อเข่าด้านในแคบกว่าด้านนอก ส่งผลให้ร่างกายปรับสภาพให้ขาโค้งงอเพื่อรักษาสมดุล ทำให้เดินผิดปกติ ต้องเอียงตัว นำไปสู่อาการปวด เมื่อยล้าขา รวมถึงเร่งให้กระดูกอ่อนด้านในสึกหรอเพิ่มขึ้น

9. ท่าเดินผิดปกติ หรือไม่สามารถเดินได้เหมือนเดิม

ผู้ป่วยที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมจะประสบปัญหาในการเดิน เนื่องจากไม่สามารถลงน้ำหนักบนขาได้อย่างเต็มที่เหมือนคนปกติ เมื่อต้องก้าวเดินหรือหยั่งเท้าลง ผู้ป่วยจะรู้สึกปวดและเจ็บแปลบที่ข้อเข่า ทำให้จำเป็นต้องรีบก้าวต่อไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การเดินผิดแปลกไปจากเดิม นอกจากนี้ หากผู้ป่วยมีอาการเข่าโก่ง ก็จะไม่สามารถเดินตรงได้อย่างคนทั่วไป แต่จะเดินตัวโคลง โยกไปโยกมา หรือเดินแกว่งขา

10. ปวดข้อเข่าเวลาเดิน หรือขึ้นลงบันได

สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม จังหวะการก้าวขาขึ้นหรือลงบันได จำเป็นต้องมีการงอเข่า ส่งผลให้ผิวข้อบดอัดเข้าหากัน ซึ่งปกติแล้วผู้ป่วยที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมจะมีภาวะกระดูกอ่อนผิวข้อ ทำให้ไม่สามารถรองรับน้ำหนักหรือแรงกระแทกได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเช่นคนปกติ การขึ้นหรือลงบันไดจึงก่อให้เกิดอาการเจ็บแปลบที่บริเวณข้อเข่าได้

ผู้ที่เสี่ยงต่ออาการข้อเข่าเสื่อม

  • ข้อเข่ามีความเสี่ยงต่อการสึกหรอและเสื่อมสภาพได้ง่าย โดยเฉพาะในกลุ่มบุคคลดังต่อไปนี้
  • ผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป เนื่องจากข้อเข่าจะเริ่มสึกและเสื่อมตามอายุที่เพิ่มขึ้น
  • ผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน เพราะน้ำหนักที่มากเกินไปจะเพิ่มแรงกดทับบริเวณข้อเข่า
  • ผู้ที่ต้องยืนหรือเดินตลอดเวลา เช่น พนักงานขาย เนื่องจากการใช้งานข้อเข่าอย่างหนักและต่อเนื่องเป็นเวลานาน 

หากสังเกตสัญญาณเตือนข้อเข่าเสื่อมข้างต้นแล้วสงสัยว่าตนเองมีอาการข้อเข่าเสื่อมพวกนี้อยู่ อย่านิ่งนอนใจ แนะนำให้เข้ามาตรวจวินิจฉัยที่ Knee center จาก Bonefit Clinic เพื่อช่วยดูแลรักษาอาการข้อเข่าเสื่อมโดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยเทคโนโลยีชีวโมเลกุลสร้างเนื้อเยื่อกระดูกอ่อน (Cartilage Tissue Biomolecule) ทำให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ นัดหมายแพทย์ได้เลยวันนี้ที่ โทร. 092 629 7964095 251 5952 หรือ Line ID : @BONEFIT Clinic

ข้อมูลอ้างอิง

  1. ปวดเข่าตอนกลางคืน รับมืออย่างไรดี. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567. จาก https://www.pobpad.com/ทำไมปวดเข่าตอนกลางคืน-ร.
  2. A Guide to Osteoarthritis of the Knee. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567. จาก https://www.healthline.com/health/osteoarthritis/knee/osteoarthritis-of-the-knee.
  3. Osteoarthritis of the Knee (Degenerative Arthritis of the Knee). สืบค้นเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567. จาก https://www.webmd.com/osteoarthritis/ostearthritis-of-the-knee-degenerative-arthritis-of-the-knee.