fbpx

10 จุดที่ควรสังเกตอาการ ปวดข้อแบบไหนต้องไปพบแพทย์ ?

อาการปวดข้อนับเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย และมีสาเหตุการเกิดที่หลากหลาย บางครั้งอาจไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ในบางกรณีก็อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโรคร้ายแรงที่ต้องได้รับการรักษาทันที ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องเรียนรู้วิธีสังเกตอาการปวดข้อของตัวเองว่าเป็นแบบไหน เพื่อประเมินว่าอาการนั้นร้ายแรงหรือไม่ และต้องไปพบแพทย์หรือเปล่า

บทความนี้จะมาบอก 10 จุดสังเกตอาการปวดข้อ ว่าปวดแบบไหนถึงต้องไปพบแพทย์ รวมถึงวิธีรักษาอาการปวดตามข้อว่ามีอะไรบ้าง

ผู้หญิงมีอาการปวดข้อมือ

10 จุดสังเกตอาการ ปวดข้อแบบไหนที่บ่งบอกว่าเราต้องไปพบแพทย์ ?

ปวดข้อเรื้อรังนานกว่า 3 เดือนขึ้นไปโดยไม่ทราบสาเหตุ

อาการปวดข้อที่เป็นมานานกว่า 3 เดือน โดยไม่มีประวัติการบาดเจ็บหรือโรคประจำตัว อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะข้ออักเสบเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ หรือโรคกระดูกพรุน ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยและการรักษาอาการอย่างถูกต้อง

ปวดข้อรุนแรงจนรบกวนการนอนหลับ การทำงาน หรือชีวิตประจำวัน

หากเกิดอาการปวดข้อรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ทำให้นอนไม่หลับ ทำงานไม่ได้ หรือทำกิจวัตรประจำวันไม่สะดวกอย่างเคย นั่นอาจเป็นสัญญาณของโรคข้ออักเสบหรือปัญหาข้อรุนแรง ที่ต้องได้รับการดูแลพร้อมวิธีรักษาอาการปวดตามข้อโดยเร็ว

ข้อบวมแดง ร้อน หรือตึง

อาการบวม แดง ร้อน และตึงของข้อต่อ เป็นสัญญาณชัดเจนของภาวะข้ออักเสบ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การบาดเจ็บ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ หรือการติดเชื้อ จำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาอาการอย่างเหมาะสมและถูกวิธี

ข้อเสื่อมสภาพ มีเสียงก๊อบแก๊บเวลาขยับ

เมื่อข้อสึกหรอจากการใช้งานมากเกินไป อาจทำให้เกิดเสียงก๊อบแก๊บเวลาขยับข้อ รวมถึงอาจมีอาการปวดและขยับข้อได้ไม่สะดวก ซึ่งเป็นอาการของโรคข้อเสื่อมที่ต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม

ข้อติด ขยับลำบาก

หากพบว่าข้อต่อของร่างกายไม่สามารถขยับได้อย่างคล่องแคล่ว หรือรู้สึกติดขัด ใช้ชีวิตไม่สะดวกเหมือนอย่างเคย นั่นอาจเป็นสัญญาณของโรคข้ออักเสบหรือภาวะข้อเสื่อมรุนแรง ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาเพื่อป้องกันปัญหาการเคลื่อนไหวที่รุนแรงขึ้น

ข้อเสียรูป

ในกรณีที่ข้อต่อมีรูปร่างผิดปกติ บิดเบี้ยว หรือเสียรูปทรง อาจเป็นผลมาจากการบาดเจ็บที่รุนแรงจากโรคกระดูกพรุน หรือโรคข้ออักเสบรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อป้องกันการสูญเสียการใช้งานของข้อต่อ

มีไข้ร่วมกับอาการปวดข้อ

หากมีไข้ร่วมกับอาการปวดข้อ อาจเป็นสัญญาณเตือนของการติดเชื้อในข้อต่อ หรือโรคติดเชื้อทั่วร่างกาย ที่ส่งผลทำให้เกิดอาการปวดข้อ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเร่งด่วน

กล้ามเนื้อบริเวณข้ออ่อนแรง

ในบางกรณี อาการปวดข้อที่รุนแรงอาจส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณข้อต่ออ่อนแรงลง ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการอักเสบของกล้ามเนื้อ หรือการใช้งานข้อต่อน้อยลงจากอาการปวด หากพบอาการนี้ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและวิธีรักษาอาการปวดตามข้อทันที

เดินลำบาก หรือขาข้างใดข้างหนึ่งสั้นลง

หากพบว่ามีอาการเดินลำบาก สะดุดบ่อย หรือขาข้างใดข้างหนึ่งสั้นลงอย่างผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาที่ข้อต่อสะโพกหรือเข่า ซึ่งอาจเกิดจากโรคข้อเสื่อม การบาดเจ็บ หรือความผิดปกติของกระดูก จำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม

เคยได้รับบาดเจ็บที่ข้อต่อ เช่น หกล้ม กระแทก

เคยมีประวัติการบาดเจ็บที่บริเวณข้อต่อในอดีต เช่น จากการหกล้มหรือถูกกระแทก อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนในภายหลังได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคข้อเสื่อม ข้ออักเสบ หรือความเสียหายของเอ็นและกระดูก หากพบว่ามีอาการปวดข้อภายหลังจากได้รับบาดเจ็บบริเวณนั้น ๆ มา ควรแจ้งประวัติให้แพทย์ทราบเพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้อง

วิธีรักษาอาการปวดตามข้อ มีอะไรบ้าง ?

เมื่อพบว่าตนเองมีอาการปวดข้อรุนแรงหรือเรื้อรัง การได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมถือเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อบรรเทาอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจตามมา โดยวิธีรักษาอาการปวดข้อหลัก ๆ มีดังนี้

  • การให้ยา เช่น ยาแก้อักเสบ ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้ปวด เป็นวิธีรักษาเบื้องต้นเพื่อบรรเทาอาการปวดและอาการอักเสบของข้อ ทั้งนี้ ต้องใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เสมอ เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด
  • การทำกายภาพบำบัด ได้แก่ การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและช่วยการเคลื่อนไหวของข้อ การทำความร้อนและความเย็นสลับกัน เพื่อบรรเทาอาการปวดและอักเสบ รวมถึงการนวดบริเวณข้อต่อเพื่อคลายกล้ามเนื้อ
  • การฉีดยา เช่น การฉีดยาสเตียรอยด์เข้าไปในข้อต่อ เพื่อลดอาการอักเสบและบรรเทาอาการปวดอย่างรวดเร็ว แต่มักใช้เป็นการรักษาชั่วคราว
  • การฉีด PRP (Platelet-Rich Plasma) เป็นการนำเกล็ดเลือดจากตัวผู้ป่วยมาปั่นแยกจนได้เป็นพลาสมาเกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้น แล้วฉีดกลับเข้าไปในบริเวณข้อที่มีปัญหา เพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและเร่งการฟื้นตัว
  • การผ่าตัด ในกรณีที่มีความเสียหายของข้อที่รุนแรง ผู้ป่วยอาจจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อให้หายขาด เช่น การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมสำหรับโรคข้อเสื่อมรุนแรง หรือการผ่าตัดเพื่อเอาส่วนของข้อที่เสื่อมออก

 

อย่างไรก็ตาม การสังเกตอาการปวดข้อให้ดีและรีบปรึกษาแพทย์หากพบอาการ จะช่วยให้ได้รับการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้องและได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ทั้งยังเป็นการป้องกันไม่ให้อาการลุกลามหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการตรวจปัญหาข้อเข่ากับคลินิกกระดูกและข้อ หรือมีปัญหาปวดหลังเรื้อรังที่กำลังมองหาคลินิกรักษากล้ามเนื้ออักเสบ สามารถมาปรึกษาได้ที่ Bonefit Clinic เราทำได้มากกว่าแค่การรักษาตามอาการ แต่ยังช่วยคุณป้องกันอาการปวดข้อ หรือโรคแทรกซ้อนที่อาจตามมาในอนาคตจากการปวดข้อได้ด้วย นัดหมายแพทย์ได้เลยวันนี้ที่ โทร. 092 629 7964, 095 251 5952 หรือ Line ID : @BONEFIT Clinic

เรียบเรียงโดย

นพ. กนกพล ธนกิจรุ่งทวี (หมอนิก)

แพทย์เฉพาะทางกระดูกและข้อ อนุสาขาข้อเข่าและข้อสะโพก 

การรักษาด้วยเซลล์บำบัด