เมื่ออายุเข้าสู่เลข 3 ไม่ปวดหลัง ก็ปวดเอว ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพที่ไม่ได้เกิดเพราะมีอายุที่มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสมด้วย เช่น การนั่งทำงานท่าเดิมเป็นเวลานาน ๆ การไม่ออกกำลังกาย หรือการปล่อยให้น้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐาน แล้วจะมีวิธีดูแลสุขภาพเมื่ออายุเข้าเลข 3 อย่างไรบ้าง ? วันนี้เราจะมาบอกเคล็ดลับดี ๆ ให้ทุกคนได้รู้กัน !
อาการปวดหลังและปวดเอวเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในคนวัย 30 ปีขึ้นไป สาเหตุหลักมาจากการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน การยกของหนัก หรือการนอนในท่าที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากการเสื่อมของกระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อที่เริ่มอ่อนแอลงอีกด้วย
เมื่อเข้าสู่วัย 30 ปี ระดับฮอร์โมนเพศในร่างกายจะเริ่มลดลงอย่างช้า ๆ สำหรับในผู้หญิง เมื่อระดับเอสโตรเจนเริ่มลดลง จะส่งผลให้ประจำเดือนอาจมาไม่สม่ำเสมอ อารมณ์แปรปรวน และอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ ส่วนในผู้ชาย จะทำให้มีปัญหาเรื่องความต้องการทางเพศ กล้ามเนื้อลดลง และอาจมีอาการซึมเศร้า
เมื่ออายุมากขึ้น ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงต่าง ๆ ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยโรคที่พบได้บ่อยในวัย 30 ปีขึ้นไป ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคมะเร็งบางชนิด และโรคกระดูกพรุน การดูแลสุขภาพตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและลดความเสี่ยงของโรคเหล่านี้
ความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่เห็นได้ชัดเจนเมื่อเข้าสู่วัย 30 ปี คือ การเกิดริ้วรอยบนใบหน้าและผมที่เริ่มร่วงบางลง สาเหตุหลักมาจากการลดลงของคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม
เมื่อเข้าสู่วัย 30 ปี อัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกายจะเริ่มลดลง ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ง่าย นอกจากนี้ มวลกล้ามเนื้อก็จะเริ่มลดลงเช่นกัน หากไม่ได้รับการกระตุ้นด้วยการออกกำลังกายที่เหมาะสม อาจส่งผลให้ร่างกายดูไม่กระชับและไม่ฟิตเหมือนเดิม
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เป็นพื้นฐานสำคัญของการมีสุขภาพดี โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่วัย 30 ปี ซึ่งระบบเผาผลาญเริ่มทำงานช้าลง จึงควรเน้นรับประทานผักและผลไม้หลากสีอย่างน้อยวันละ 5 ส่วน เลือกโปรตีนคุณภาพดี เช่น ปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน รวมถึงถั่วต่าง ๆ ส่วนคาร์โบไฮเดรตควรเลือกชนิดเชิงซ้อนอย่างข้าวกล้องและธัญพืช ในขณะเดียวกันก็ควรจำกัดอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันอิ่มตัวสูง นอกจากนี้ ควรเพิ่มการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีเพื่อเสริมสร้างกระดูกและฟัน อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
การดูแลผิวหน้า เป็นหนึ่งในวิธีดูแลสุขภาพเมื่ออายุเข้าเลข 3 ที่สำคัญ เนื่องจากผิวเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด การใช้สกินแคร์ที่เหมาะสมจะช่วยชะลอความเสื่อมและรักษาความอ่อนเยาว์ของผิวได้ ควรเริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยนทุกเช้าและก่อนนอน ตามด้วยการใช้โทนเนอร์เพื่อปรับสมดุลผิว จากนั้น ใช้เซรัมที่มีส่วนผสมของวิตามินซีหรือเรตินอลเพื่อต่อต้านริ้วรอยและจุดด่างดำ และทาครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระและไฮยาลูรอนิกแอซิดเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ที่สำคัญที่สุด อย่าลืมทาครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไปทุกวัน แม้อยู่ในร่ม เพื่อป้องกันผิวจากรังสี UV ที่เป็นสาเหตุหลักของริ้วรอยก่อนวัย
การดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับสุขภาพโดยรวม ยิ่งอายุเข้าเลข 3 แล้ว ร่างกายยิ่งต้องการน้ำมากขึ้นเพื่อรักษาการทำงานของระบบต่าง ๆ ให้เป็นปกติ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือประมาณ 2 ลิตร ทั้งนี้ อาจต้องดื่มมากขึ้นหากอยู่ในสภาพอากาศร้อนหรือออกกำลังกายหนัก เพื่อช่วยล้างสารพิษออกจากร่างกาย ทำให้ผิวพรรณชุ่มชื้น ลดอาการปวดหัว ควบคุมน้ำหนัก และทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองและลดความเหนื่อยล้าได้อีกด้วย แนะนำให้พกขวดน้ำติดตัวไว้เสมอและดื่มน้ำบ่อย ๆ ตลอดทั้งวัน
อีกหนึ่งวิธีดูแลสุขภาพเมื่ออายุเข้าเลข 3 คือ ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ นอกจากนี้ ควรเพิ่มการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อด้วยการยกน้ำหนักอย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์ เพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ เผาผลาญไขมัน ทั้งยังช่วยควบคุมน้ำหนัก เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและข้อต่อ รวมถึงลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และความดันโลหิตสูง ที่สำคัญยังช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ ลดความเครียด และเพิ่มพลังงานในชีวิตประจำวัน แนะนำให้เลือกกิจกรรมที่ชื่นชอบและสนุกสนาน เพื่อให้สามารถทำได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว
การพักผ่อนให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับสุขภาพโดยรวม โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่วัย 30 ปี เนื่องจากร่างกายต้องการการฟื้นฟูมากขึ้น โดยควรนอนหลับให้ได้อย่างน้อย 7-9 ชั่วโมงต่อคืน เพื่อช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย ฟื้นฟูพลังงาน และรักษาสมดุลของฮอร์โมนต่าง ๆ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ปรับปรุงความจำ และลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ภาวะซึมเศร้า หากอยากให้การนอนมีคุณภาพมากขึ้น ก็ควรสร้างกิจวัตรก่อนนอนที่ดีด้วย เช่น เข้านอนและตื่นนอนในเวลาเดียวกันทุกวัน หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอน และจัดสภาพแวดล้อมในห้องนอนให้เหมาะสมกับการพักผ่อน
การจัดการความเครียดและรักษาสุขภาพจิตให้ดีเป็นสิ่งสำคัญมากเมื่อเข้าสู่วัย 30 ปี เนื่องจากเป็นช่วงที่มักมีความรับผิดชอบและความกดดันในชีวิตเพิ่มขึ้น ควรหาวิธีผ่อนคลายความเครียดที่เหมาะกับตัวเอง เช่น การทำสมาธิ โยคะ การออกกำลังกาย หรือทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบ รวมถึงการพูดคุยกับเพื่อนสนิทและคนในครอบครัว หรือการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตก็เป็นวิธีที่ดีในการจัดการกับความเครียดและปัญหาทางอารมณ์ ลดความเสี่ยงของโรคทางกายและจิต ทั้งยังช่วยให้มีพลังในการเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ ในชีวิตได้ดีขึ้นอีกด้วย
การหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์เป็นหนึ่งในวิธีดูแลสุขภาพเมื่ออายุเข้าเลข 3 ที่สำคัญที่สุด เพราะการสูบบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และปอด รวมถึงเร่งกระบวนการเสื่อมของผิวหนัง ส่วนการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเป็นประจำก็สามารถทำลายตับ เพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ อีกทั้งยังส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตด้วย หากกำลังสูบบุหรี่อยู่ ควรหาวิธีเลิกสูบโดยปรึกษาแพทย์หรือใช้โปรแกรมช่วยเลิกบุหรี่ต่าง ๆ สำหรับแอลกอฮอล์ หากดื่ม ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะเท่านั้น
นอกจากวิธีดูแลสุขภาพเมื่ออายุเข้าเลข 3 เหล่านี้แล้ว ยังสามารถรู้เท่าทันและชะลอความเสื่อมของร่างกายได้ที่ Bonefit Clinic คลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย Wellness Center ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการแพทย์เชิงป้องกันสุขภาพ หรือเวชศาสตร์ป้องกัน (Preventive Medicine) โดยจะรักษาในเชิงการตรวจวิเคราะห์ ป้องกันการเกิดโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย ปรับความเป็นอยู่ที่ดีต่อสุขภาพ พร้อมช่วยฟื้นฟูบำรุงระบบร่างกายให้มีประสิทธิภาพ และมีความสุขอย่างยั่งยืน
ข้อมูลอ้างอิง
HOME
About Us
Services
Blog
Review & Testimonials
BONEFIT THAILAND
Our Products
OA Knee Center
คลินิกรักษาข้อเข่าเสื่อม, รักษาอาการข้อเข่าเสื่อม, เเพทย์รักษาอาการข้อเข่าเสื่อมโดยไม่ต้องผ่าตัด