fbpx

เส้นเอ็นอักเสบ : สาเหตุ อาการ และวิธีรักษาอย่างเหมาะสม

เส้นเอ็นอักเสบ หรือในทางการแพทย์เรียกว่า Tendonitis เป็นภาวะที่เส้นเอ็นที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างกล้ามเนื้อและกระดูก เกิดการอักเสบและเจ็บปวด ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของข้อต่อต่าง ๆ ถูกจำกัด โดยมักพบบ่อยในบริเวณที่มีการใช้งานบ่อยครั้ง เช่น ข้อมือ ข้อศอก หัวเข่า และข้อเท้า

ทั้งนี้ แม้ว่าอาการเส้นเอ็นอักเสบอาจดูไม่ร้ายแรงในระยะแรก แต่หากผู้ป่วยขาดความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสาเหตุ อาการ ตลอดจนวิธีการรักษาและป้องกันที่เหมาะสม อาการก็อาจลุกลาม จนส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาวได้

เส้นเอ็นอักเสบบริเวณข้อเท้า มีสาเหตุหลัก ๆ เกิดจากการใช้งานมากเกินไป

สาเหตุของเส้นเอ็นอักเสบ

อาการปวดเส้นเอ็นขาและเส้นเอ็นอักเสบเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย โดยสาเหตุหลักมีดังต่อไปนี้

  • ใช้งานมากเกินไป 

เส้นเอ็นอักเสบเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย โดยสาเหตุหลักมาจากการใช้งานมากเกินไป ซึ่งมักเริ่มต้นจากการทำกิจกรรมซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน เช่น การยกของหนักในโรงงานหรือการนั่งทำงานกับจอคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องในสำนักงาน ซึ่งอาจทำให้เส้นเอ็นถูกใช้งานอย่างหนักจนเกิดอาการเจ็บปวด

  • เกิดอาการบาดเจ็บเฉียบพลัน

นอกจากการใช้งานมากเกินไปแล้ว อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันก็เป็นสาเหตุสำคัญเช่นกัน ตัวอย่างเช่น การพลัดตกจากเตียงหรือหกล้ม จนเกิดการบิดของข้อต่อ ทำให้เส้นเอ็นเกิดการอักเสบทันที หรือบางครั้งอาจแสดงอาการในภายหลัง โดยเฉพาะหากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม

  • ความเสื่อมของเส้นเอ็นจากอายุ

ความเสื่อมของเส้นเอ็นตามอายุก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัย โดยเมื่อเราอายุมากขึ้น เส้นเอ็นจะเสื่อมลงตามธรรมชาติ ทำให้สูญเสียความยืดหยุ่นและเสี่ยงต่อการอักเสบได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องรับแรงกระแทกหรือนั่งทำงานในท่าเดิมนานเกินไป

  • โรคประจำตัวบางชนิด

ไม่เพียงแต่ปัจจัยภายนอกเท่านั้น โรคบางประเภทก็อาจนำไปสู่การอักเสบของเส้นเอ็นได้เช่นกัน เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) โรคเบาหวาน (Diabetes) และโรคเกาต์ (Gout) ดังนั้น ผู้ป่วยที่เป็นโรคเหล่านี้ จึงควรหมั่นสังเกตอาการเบื้องต้น เพื่อป้องกันไม่ให้อาการลุกลามจนกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง

 

 

อาการของเส้นเอ็นอักเสบ

เส้นเอ็นอักเสบมีสัญญาณเตือนที่ชัดเจน ซึ่งหากสังเกตได้เร็ว ก็จะช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  • รู้สึกปวดเมื่อเคลื่อนไหว 

เมื่อเกิดการอักเสบ ผู้ป่วยมักรู้สึกเจ็บหรือปวดขณะขยับส่วนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งอาการอาจรุนแรงขึ้นเมื่อออกแรงหรือเคลื่อนไหว ส่งผลให้การทำกิจวัตรประจำวันเป็นไปอย่างยากลำบาก

  • บวมและอักเสบ 

นอกจากความเจ็บปวด บริเวณที่อักเสบมักจะบวม ร้อน และแดงกว่าปกติ ทั้งนี้เป็นผลมาจากกลไกการตอบสนองของร่างกายต่อการบาดเจ็บ โดยระบบภูมิคุ้มกันจะเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณที่ได้รับผลกระทบ เพื่อเร่งกระบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่เสียหาย

  • ข้อยึดติด 

ในบางกรณี ผู้ป่วยอาจรู้สึกว่าข้อติดขัดหรือฝืดเมื่อพยายามขยับ บางครั้งอาจรู้สึกเหมือนข้อต่อสะดุดหรือล็อก ทำให้การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างยากลำบาก โดยอาการนี้เกิดจากการที่เส้นเอ็นบวมและหนาตัวขึ้น จนจำกัดการเคลื่อนไหวของข้อต่อ ซึ่งระยะเวลาการฟื้นตัว จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ

 

 

ระยะเวลาฟื้นฟูจากอาการเส้นเอ็นอักเสบ

ระยะเวลาในการฟื้นตัวจากอาการเส้นเอ็นอักเสบนั้นไม่ตายตัว แต่จะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการและการดูแลรักษา ดังนี้ 

  • อาการเล็กน้อย

มักจะฟื้นตัวภายใน 2-6 สัปดาห์ หากผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และพักผ่อนอย่างเพียงพอ

  • อาการรุนแรง

อาจใช้เวลาถึง 3-6 เดือนในการฟื้นตัว โดยเฉพาะในกรณีที่บาดเจ็บเฉียบพลันหรือผู้ป่วยมีโรคประจำตัวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 

แต่ไม่ว่าจะเป็นกรณีใด การรักษาและป้องกันที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการฟื้นฟูและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ

 

 

วิธีรักษาและป้องกันอาการเส้นเอ็นอักเสบ

การรักษาเส้นเอ็นอักเสบมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ โดยวิธีรักษาที่เราอยากแนะนำ มีดังนี้

  • พักผ่อนให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงการใช้งาน

วิธีแรกที่สำคัญที่สุดคือ การลดการทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดการใช้งานเส้นเอ็นมากเกินไป เพื่อให้เส้นเอ็นมีเวลาได้ฟื้นตัว นอกจากนี้ การพักผ่อนอย่างเพียงพอยังช่วยป้องกันการบาดเจ็บซ้ำและเร่งกระบวนการเยียวยาได้อีกด้วย

  • การใช้ยาแก้อักเสบ

การใช้ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือนาโพรเซน (Naproxen) จะช่วยบรรเทาอาการอักเสบและลดความเจ็บปวดได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ทุกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง

  • การบำบัดทางกายภาพ

เมื่ออาการเริ่มดีขึ้น แนะนำให้พบนักกายภาพบำบัด เพื่อฝึกการเคลื่อนไหวและเทคนิคการดูแลตนเองที่ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยลดโอกาสเกิดอาการซ้ำในอนาคต

  • การใช้เครื่องมือช่วยพยุง

ในบางกรณี การใช้เครื่องช่วยพยุงข้อต่อหรือเส้นเอ็นอาจเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากจะช่วยให้สามารถเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้น ทั้งยังช่วยป้องกันการอักเสบเพิ่มเติม

  • การประคบเย็นและร้อน

วิธีการรักษาแบบง่าย ๆ แต่ได้ผลดีอีกวิธีหนึ่งคือ การสลับประคบเย็นและร้อน โดยการประคบเย็นจะช่วยลดอาการบวมและอักเสบ ในขณะที่การประคบร้อนจะกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทั้งนี้ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

  • การรักษาเพิ่มเติมด้วยการฉีดสเตียรอยด์

 ในกรณีที่อาการไม่ดีขึ้นหลังจากได้รับการรักษาเบื้องต้นแล้ว แพทย์อาจพิจารณาใช้วิธีฉีดสเตียรอยด์เพื่อลดการอักเสบ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้จะใช้เฉพาะในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น และต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด

 

 

คำถามพบบ่อย (FAQs) สำหรับอาการเอ็นอักเสบ

Q: เส้นเอ็นอักเสบกี่วันหาย

A: ระยะเวลาการฟื้นตัวขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ สำหรับอาการที่ไม่รุนแรง มักใช้เวลาประมาณ 2-6 สัปดาห์ แต่หากเป็นการอักเสบรุนแรง อาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือน

Q: เส้นเอ็นอักเสบกินยาอะไรดี ? 

A: ยาที่นิยมใช้บรรเทาอาการ ได้แก่ ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน(Ibuprofen) นอกจากนี้ ยาทาหรือครีมลดอักเสบก็สามารถใช้ร่วมได้ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาใด ๆ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

เส้นเอ็นอักเสบบริเวณข้อมือ

 

หากคุณกำลังประสบปัญหาเอ็นอักเสบหรือมีอาการปวดตึงกล้ามเนื้อที่ไม่หายสักที Bonefit Clinic พร้อมให้คำปรึกษา เราคือคลินิกกายภาพบำบัดเส้นเอ็นอักเสบในกรุงเทพ ที่พร้อมดูแลคุณด้วยโปรแกรมฟื้นฟูเฉพาะทางอย่าง Progressive Muscle Relaxation ซึ่งออกแบบมาเพื่อบรรเทาอาการบาดเจ็บจากการใช้งานที่ไม่เหมาะสมและอาการเรื้อรังต่าง ๆ 

ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการและนักกายภาพบำบัดมากประสบการณ์ของเรา จะทำการประเมินและวิเคราะห์สาเหตุของอาการปวดและการบาดเจ็บอย่างละเอียด จากนั้นจึงวางแผนการรักษาด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อให้กระบวนการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร

หากสนใจปรึกษา สามารถทำการนัดหมายได้ที่ โทร. 092-629-7964, 095-251-5952 หรือ Line ID: @BONEFIT Clinic 

 

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Tendonitis. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567. จาก https://my.clevelandclinic.org/
  2. Tendinitis. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567. จาก https://www.mayoclinic.org/