fbpx

ดูแลสุขภาพกระดูกในผู้สูงอายุ ทำง่าย ชะลอความเสื่อมได้จริง

การวิ่งเบา ๆ อย่างจ็อกกิง เป็นวิธีดูแลกระดูกที่มีประสิทธิภาพ

เมื่อก้าวเข้าสู่อายุ 50+ ปี กระดูกเริ่มเสื่อมสภาพและผุกร่อน หลายคนเข้าสู่ภาวะของโรคกระดูกพรุน โดยเฉพาะผู้หญิงที่ถึงวัยหมดประจำเดือน ด้วยเหตุนี้ การบำรุงกระดูกและข้อสำหรับผู้สูงอายุจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ทั้งยังช่วยชะลอการเสื่อมของกระดูกตามอายุ และลดความเสี่ยงจากอาการบาดเจ็บหรือโรคกระดูกเรื้อรัง

 

โรคกระดูกและข้อที่มักพบในผู้สูงอายุ

ความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ เป็นสิ่งที่มนุษย์เราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ โดยเฉพาะเรื่องกระดูกและข้อ ซึ่งเมื่ออายุมากขึ้น มักพบโรคเกี่ยวกับกระดูกและข้อดังต่อไปนี้ 

โรคกระดูกพรุน

เป็นโรคที่เกิดจากการที่กระดูกเสียความหนาแน่นภายในกระดูก ทำให้มีรูโพรง เปราะ และแตกง่าย พบมากในผู้หญิงที่หมดประจำเดือน จำเป็นต้องบำรุงด้วยวิตามินดีและแคลเซียม เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก และลดความเสี่ยง

โรคกระดูกข้อเข่าเสื่อม

เป็นโรคที่เกิดจากกระดูกอ่อนของข้อเข่าเสื่อม มักเกิดจากการใช้งานเข่าอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นการยกของหนัก หรือมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน ทำให้เข่าต้องรับน้ำหนักมากจนเกินไป ทำให้เสื่อมสภาพและมีอาการปวดบริเวณข้อเข่าตามมา

โรคกระดูกสันหลังเสื่อม

เกิดจากการที่โครงสร้างของกระดูกสันหลังมีการเปลี่ยนแปลง อย่างเช่นหมอนรองกระดูกแคบลง มักเกิดจากการที่ยกของหนักบ่อย ๆ หรือยกของในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ หรือเสื่อมสภาพลงได้

โรคข้อสะโพกเสื่อม

เกิดจากการมีกระดูกอ่อนเสื่อมสลายไป ทำให้เดินหรือใช้ชีวิตประจำวันลำบากกว่าปกติ ในกรณีที่อาการรุนแรง อาจจะรู้สึกปวดในช่วงที่นอนหลับและขยับตัวได้

การกินอาหารที่มีประโยชน์ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง

 

Bonefit Routine วิธีดูแลกระดูกและข้อให้แข็งแรงในผู้สูงวัย

สำหรับผู้ที่กำลังเข้าสู่วัยสูงอายุ ที่อะไร ๆ ก็เริ่มจะเสื่อมลงไปตามลำดับ แม้ว่าเราจะไม่สามารถหยุดยั้งความเสื่อมได้ แต่สามารถชะลอความเสื่อมให้ช้าลงได้ ด้วยการดูแลตัวเองและเสริมสร้างสุขภาพกระดูกและข้อให้แข็งแรง ด้วยกิจวัตรประจำวันดังต่อไปนี้

 

ออกกำลังกายเบา ๆ อย่างสม่ำเสมอ

หัวใจสำคัญของการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับกระดูกและข้อ ไม่ได้อยู่ที่การดูแลกระดูกและข้อให้แข็งแรงโดยตรงเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อขา ตั้งแต่สะโพกไปจนถึงน่องให้มีความแข็งแรง เพื่อให้กล้ามเนื้อขาช่วยรับน้ำหนักและลดแรงกระแทกที่เกิดจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่อายุมากแล้วไม่ควรจะออกกำลังกายแบบหักโหม โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน แนะนำให้เดินเร็ว วิ่งเหยาะ ๆ ขึ้นบันได เล่นโยคะ หรือการออกกำลังกายแบบแอโรบิกในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อรอบ ๆ กระดูกขาแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
ส่วนความถี่ในการออกกำลังกาย แนะนำให้ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง และสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว อย่างโรคความดันโลหิตสูงหรือโรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย

 

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

“อาหารเป็นยา” คำกล่าวนี้ไม่เกินจริงนัก เพราะในอาหารมีวิตามิน แร่ธาตุ โปรตีน และสารอาหารต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย ด้วยเหตุนี้ หากต้องการให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในสัดส่วนที่เหมาะสมจึงเป็นหัวใจสำคัญในการเสริมสร้างสุขภาพร่างกายโดยรวมให้แข็งแรง
สำหรับผู้ที่ต้องการเสริมสร้างสุขภาพกระดูกและข้อเป็นพิเศษ ขอแนะนำอาหารที่มีแคลเซียม สังกะสี วิตามินดี และโปรตีนสูง นอกจากนี้ แนะนำให้ตื่นเช้ามารับแสงแดดอ่อน ๆ เพื่อรับวิตามินดีจากธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยให้แคลเซียมที่รับประทานเข้าไปดูดซึมได้ดียิ่งขึ้น

 

อาหารที่แนะนำให้รับประทานเป็นประจำ

  • อาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นมและผลิตภัณฑ์จากนม ปลาเล็กปลาน้อยหรือปลาไข่ที่สามารถรับประทานได้ทั้งกระดูกหรือเปลือก กุ้งฝอย กุ้งแห้ง ถั่วเหลือง ผักใบเขียว อย่างคะน้า ผักโขม ปวยเล้ง
  • อาหารที่มีสังกะสีหรือซิงค์สูง เช่น เนื้อแดง ถั่ว ธัญพืช หอยนางรม กระเทียม
  • อาหารที่มีวิตามินดีสูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลานิล น้ำมันตับปลา ตับ ไข่แดง นม เห็ด สาหร่ายบางชนิด
  • อาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น ไข่ ปลา คีนัว นม ถั่ว

 

หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่

นอกจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว ควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำลายแคลเซียมในร่างกาย อย่างการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ นอกจากนี้ให้งดรับประทานน้ำอัดลม เกลือ และผงชูรส ซึ่งส่งผลต่อความแข็งแรงของกระดูกโดยตรง หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ แนะนำให้ลดปริมาณลงเรื่อย ๆ เพื่อสุขภาพที่ดีและชีวิตที่ยืนยาว

 

รับประทานอาหารเสริมบำรุงกระดูกและข้อ

ในกรณีที่ต้องการบำรุงสุขภาพกระดูกและข้ออย่างเร่งด่วน และไม่สามารถรับสารอาหารได้เพียงพอต่อความต้องการ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อเลือกอาหารเสริมที่ช่วยบำรุงกระดูกและข้อ อย่างแคลเซียม คอลลาเจน และวิตามินดี ในกรณีที่มีโรคประจำตัว หรือรับประทานยาเป็นประจำ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อน เพื่อความปลอดภัย

 

ลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

การที่น้ำหนักตัวมากเกินไปจะยิ่งทำให้กระดูกและข้อต้องรับน้ำหนักและแรงกระแทกมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้กระดูกเสื่อมสภาพเร็วยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ จึงควรควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติอยู่เสมอ

 

ดูแลสุขภาพกระดูกอย่างใกล้ชิดที่ Bonefit Clinic คลินิกกระดูกและข้อ กรุงเทพฯ

โรคกระดูกและข้อเป็นสิ่งที่ผู้สูงอายุต้องเผชิญ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้ดูแลสุขภาพมากเพียงพอในวัยหนุ่มสาว สำหรับผู้ที่ต้องการการดูแลโรคกระดูกอย่างใกล้ชิด สามารถปรึกษาแพทย์ได้ที่ Bonefit Clinic ศูนย์กระดูกและข้อ กรุงเทพ เรามีทีมแพทย์เฉพาะทางกระดูกและข้อ ที่พร้อมให้การดูแลรักษาอย่างตรงจุด

ปัจจุบัน Bonefit Clinic มีสาขาให้บริการในกรุงเทพฯ 2 แห่ง ได้แก่ สาขาศรีนครินทร์ และสาขาราชพฤกษ์ หากคุณสนใจเข้ารับการรักษา สามารถติดต่อนัดหมายแพทย์ได้ทันทีที่ โทร. 092-629-7964, 095-251-5952 หรือ Line ID: @BONEFIT Clinic

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Exercise for Your Bone Health. สืบค้นเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 จาก https://www.niams.nih.gov/health-topics/exercise-your-bone-health