อาการปวดคอ บ่า ไหล่ข้างเดียวไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม เพราะบริเวณนี้เป็นจุดสำคัญที่รวมกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และเส้นประสาทหลายจุดเข้าไว้ด้วยกัน เมื่อเกิดความผิดปกติขึ้นมา เช่น ความรู้สึกตึงเมื่อยล้า หรือแม้กระทั่งอาการเจ็บแปลบที่แผ่ลงไปถึงแขนและหลัง ผลกระทบที่เกิดขึ้นก็มักจะส่งผลต่อสมดุลของร่างกายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเคลื่อนไหว การหายใจ หรือแม้แต่คุณภาพการนอนหลับ
ดังนั้น การให้ความสำคัญและดูแลอาการเหล่านี้ตั้งแต่เริ่มแรกจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาสะสมลุกลาม จนส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว

คอ บ่า ไหล่ เป็นบริเวณที่ประกอบด้วยโครงสร้างทางกายวิภาคที่ซับซ้อน ซึ่งรวมไปถึงกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น เส้นประสาท และข้อต่อหลายจุด โดยเฉพาะเส้นประสาทสาขาหลักที่ออกจากกระดูกสันหลังส่วนคอ (Cervical Spine) ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของแขนและมือ ดังนั้น หากพบความผิดปกติเกิดขึ้นในบริเวณนี้ แม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจรบกวนสมดุลการทำงานของระบบต่าง ๆ ได้
อาการปวดที่เกิดขึ้นเฉพาะข้างใดข้างหนึ่ง มักเป็นผลมาจากพฤติกรรมที่ทำซ้ำ ๆ หรือปัญหาทางกายภาพ เช่นสาเหตุดังต่อไปนี้
เช่น การนอนตะแคงข้างเดียวเป็นเวลานาน หรือการนอนหมอนสูงหรือต่ำเกินไป ซึ่งอาจทำให้กล้ามเนื้อคอและไหล่ตึงตัวจนเกิดอาการปวด
เช่น การใช้เมาส์คอมพิวเตอร์ การอุ้มของ หรือการแบกกระเป๋าหนักข้างใดข้างหนึ่งบ่อยครั้ง ทำให้กล้ามเนื้อข้างนั้นทำงานหนักและเกิดอาการเมื่อยล้า
การยกของผิดท่าหรือเคลื่อนไหวผิดจังหวะอาจทำให้กล้ามเนื้อหรือเอ็นในบริเวณไหล่ฉีกขาด หรือเกิดจุดกดเจ็บเฉพาะข้าง
เมื่อหมอนรองกระดูกเสื่อมหรือกระดูกคอเคลื่อน อาจส่งผลให้เกิดการกดทับเส้นประสาทที่ควบคุมไหล่และแขนข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งนำไปสู่อาการปวดเฉพาะข้างได้
เช่น ข้อไหล่อักเสบ หรือภาวะยึดติดของข้อไหล่ (Frozen Shoulder) ทำให้เคลื่อนไหวลำบากและเจ็บเฉพาะข้างที่อักเสบได้
ความเครียดทางจิตใจมักส่งผลให้กล้ามเนื้อรอบคอและไหล่ตึงโดยไม่รู้ตัว ซึ่งมักเกิดขึ้นเพียงด้านเดียว โดยเฉพาะกับคนที่นั่งทำงานแบบตึงเครียดเป็นเวลานาน
สำหรับอาการปวดตึงคอบ่าไหล่ข้างเดียวที่ควรสังเกตและใส่ใจ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หรือเป็นสัญญาณของโรคอื่น ๆ ได้แก่
มีอาการตึงล้าช่วงคอ บ่า หรือไหล่สะสมต่อเนื่อง แม้จะพักผ่อนอย่างเพียงพอแล้ว
มีอาการปวดที่ลามมาจากต้นคอหรือไหล่ลงไปที่แขนหรือสะบัก ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการกดทับเส้นประสาท
รู้สึกชาหรือแปล๊บ ๆ ที่แขน มือ หรือปลายนิ้ว ซึ่งมักเป็นสัญญาณของกล้ามเนื้ออักเสบหรือเส้นประสาทถูกกดทับ
เริ่มรู้สึกว่าใช้แขนหรือไหล่ข้างหนึ่งได้ไม่เต็มที่ หรือไม่มีแรงเท่าปกติ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากปัญหาที่รากประสาทหรือกล้ามเนื้อ
ขยับคอหรือไหล่แล้วรู้สึกเจ็บหรือฝืด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเช้าหลังตื่นนอน
เมื่อกดแล้วรู้สึกเจ็บจี๊ดเฉพาะจุด ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจากกล้ามเนื้อที่ตึงหรือมีจุดตึงตัว (Trigger Point)
การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีสามารถช่วยลดอาการปวดและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำได้ โดยคุณสามารถเริ่มจากสิ่งต่อไปนี้
เช่น การปรับความสูงของโต๊ะและเก้าอี้ให้อยู่ในท่าที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้ต้องนั่งแล้วโน้มคอหรือไหล่มากจนเกินไป นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการแบกของหนักข้างเดียว และเปลี่ยนท่านอนหากนอนตะแคงข้างเดียวเป็นประจำ
โดยเฉพาะคนที่นั่งหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ควรลุกขึ้นยืดเหยียดกล้ามเนื้อทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง พร้อมกับหมุนคอเบา ๆ ยกไหล่ขึ้นลง หรือยืดแขนข้ามอก เพื่อผ่อนคลายความตึงและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อ
ใช้ผ้าร้อน แผ่นประคบร้อน หรือแช่น้ำอุ่น ประคบบริเวณที่ปวดประมาณ 15-20 นาทีต่อครั้ง เนื่องจากความร้อนจะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว และลดอาการตึงล้าที่สะสมอยู่ในกล้ามเนื้อได้
นำลูกบอลวางระหว่างผนังกับหลัง แล้วกดไปมาเบา ๆ ที่จุดที่รู้สึกตึง หรือใช้มือกดลูกเทนนิสที่จุดเจ็บบนไหล่ เพื่อช่วยคลาย Trigger Point และผ่อนคลายกล้ามเนื้อเฉพาะจุดที่ตึงตัว
ผู้เชี่ยวชาญสามารถประเมินสาเหตุและเลือกเทคนิคการบำบัดที่เหมาะสม เช่น การใช้คลื่นแม่เหล็กหรือไฟฟ้ากระตุ้นกล้ามเนื้อ การนวดเพื่อคลายกล้ามเนื้อ หรือการสอนท่าออกกำลังกายที่เหมาะกับปัญหา ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บ ทั้งยังป้องกันวิธีการดูแลตนเองที่ไม่ถูกต้องด้วย
หากปรับพฤติกรรมและบรรเทาอาการด้วยวิธีต่าง ๆ แล้ว อาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์ ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพกับแพทย์ เพื่อรับการดูแลเฉพาะทาง เนื่องจากอาการปวดอาจเป็นสัญญาณของโรคทางระบบประสาทหรือโครงสร้างกระดูก เช่น หมอนรองกระดูกเสื่อม หรือกระดูกคอเคลื่อน

สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาอาการปวดคอบ่าไหล่ข้างเดียว ที่ Bonefit Clinic มีโปรแกรม Progressive Muscle Relaxation ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาโดยเฉพาะ ด้วยการใช้หลักกายภาพบำบัดร่วมกับเทคนิคหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น RF Therapy หรือคลื่นความร้อนวิทยุความถี่ที่ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ เทคนิค PMS หรือการกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ IV Therapy หรือการให้วิตามินทางหลอดเลือดสำหรับฟื้นฟูกล้ามเนื้อในระดับเซลล์ ไม่ว่าคุณจะปวดจากท่านอนที่ไม่เหมาะสม การใช้งานแขนข้างเดียวมากเกินไป หรือความเครียดสะสม ทีมนักกายภาพบำบัดของเราพร้อมวิเคราะห์โครงสร้างร่างกาย เพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับอาการของคุณโดยเฉพาะ
อย่าปล่อยให้อาการปวดตึงคอบ่าไหล่เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตอีกต่อไป หากสนใจเข้ารับการประเมินอาการเบื้องต้น สามารถนัดหมายแพทย์เพื่อปรึกษาที่ Bonefit Clinic กับ 2 สาขาของเรา ทั้งที่สาขาศรีนครินทร์ และสาขาราชพฤกษ์ โทร 092-629-7964, 095-251-5952 หรือผ่านทาง Line ID: @BONEFIT Clinic
ข้อมูลอ้างอิง