
อาการปวดไหล่เป็นหนึ่งอาการที่พบได้บ่อยในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงานและผู้สูงอายุ แต่หลายคนอาจเลือกที่จะมองข้าม เพราะคิดว่าเป็นแค่อาการปวดเมื่อยธรรมดา แต่แท้จริงแล้วอาการนี้อาจเกี่ยวข้องกับปัญหาของข้อไหล่ เส้นเอ็น หรือแม้กระทั่งเส้นประสาท โดยเฉพาะหากมีอาการเรื้อรังจนยกแขนไม่ขึ้น ยกของไม่ได้ เพราะรู้สึกปวดไหล่ขวาหรือไหล่ซ้าย ร้าวไปถึงต้นคอ แก้อย่างไรก็ไม่หาย ควรหาสาเหตุและวิธีแก้ไขให้แน่ชัด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว
“ไหล่” เป็นหนึ่งในข้อต่อที่มีความซับซ้อนและเคลื่อนไหวได้หลายทิศทางมากที่สุดในร่างกายของมนุษย์ โดยโครงสร้างหลักประกอบด้วยกระดูก 3 ชิ้นหลัก ได้แก่
แต่นอกจากในส่วนของกระดูกแล้ว ยังมีกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และถุงน้ำหล่อเลี้ยงช่วยให้ข้อไหล่เคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่น หากส่วนใดส่วนหนึ่งเกิดการอักเสบหรือฉีกขาด จะทำให้เกิดอาการปวดและเคลื่อนไหวได้ลำบาก
อาการปวดไหล่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งมีวิธีแก้และแนวทางการรักษาที่แตกต่างกันออกไป
เกิดจากสาเหตุที่เราใช้งานกล้ามเนื้อบริเวณไหล่ซ้ำ ๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน เช่น การยกของหนัก โดยเฉพาะการยกของด้วยท่าทางที่ไม่ถูกต้อง อย่างการยกของจากพื้นโดยไม่งอเข่า หรือแบกของไว้ด้านเดียวตลอดเวลา
เป็นภาวะที่มีการอักเสบหรือมีพังผืดในเยื่อหุ้มข้อ ทำให้ไหล่ขยับได้ไม่สุด ไม่ว่าจะยกแขนไปข้างหน้า ด้านข้าง หรือด้านหลัง ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ยังไม่มีการระบุสาเหตุที่แน่ชัด แต่มีปัจจัยเสี่ยงจากโรคเบาหวาน ไทรอยด์ อายุ และการไม่ได้ใช้ข้อไหล่เป็นเวลานาน ๆ
เป็นภาวะที่เส้นประสาทบริเวณไหล่ถูกแรงกดจากเนื้อเยื่อโดยรอบ ทำให้ทำงานผิดปกติ เกิดอาการปวดไหล่ขวา ต้นคอ และบางคนอาจจะมีอาการกล้ามเนื้อฝ่อลีบ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสมก่อนมีอาการรุนแรง
เป็นภาวะที่เกิดจากหมอนรองกระดูกบริเวณกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อมหรือปลิ้นมากดทับเส้นประสาท ทำให้มีอาการปวดคอร้าวลงแขน พร้อมกับอาการชาและอ่อนแรงของกล้ามเนื้อบริเวณไหล่ แขน และมือ
เป็นภาวะที่หัวกระดูกต้นแขนหลุดออกจากเบ้ากระดูกสะบัก ทำให้มีรูปร่างที่ผิดปกติ และปวดไหล่จนไม่สามารถขยับได้ มักเกิดจากอุบัติเหตุหรือถูกกระชากอย่างรุนแรง ไม่ควรดึงให้เข้าที่เอง แต่ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาอย่างเหมาะสม
นอกจากการยกของหนัก อุบัติเหตุ หรือการโดนแรงกระแทกที่รุนแรงแล้ว พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างการใช้ไหล่ซ้ำ การอยู่ท่าเดิมเป็นเวลานาน ความเครียดที่ส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวไหล่เกิดอาการเกร็ง ก็ล้วนแต่ทำให้ปวดไหล่ได้เช่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีอาการปวดแต่ไม่รุนแรง สามารถดูแลตัวเองเบื้องต้นได้ดังต่อไปนี้
อย่างไรก็ตาม หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ ควรเข้ารับการตรวจโดยแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการรุนแรง

แม้ว่าโดยปกติแล้ว อาการปวดไหล่โดยทั่วไปสามารถหายได้เอง แต่หากว่ามีอาการดังต่อไปนี้ ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด และรักษาอย่างเหมาะสมก่อนที่อาการจะเรื้อรัง
ที่จริงแล้ว อาการปวดไหล่ที่มีสาเหตุมาจากแรงกระแทกหรือการใช้งานกล้ามเนื้อซ้ำ ๆ มักจะเกิดจากข้างที่ถนัด เช่นผู้ที่ถนัดขวาจะปวดกล้ามเนื้อจากการใช้แขนขวายกของหรือทำงาน แต่ในบางครั้งการปวดไหล่ซ้ายก็อาจมีความเกี่ยวข้องกับภาวะความผิดปกติของหัวใจ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยจะมีอาการปวดร้าวไปที่แขนซ้าย คอ และกรามร่วมด้วย ดังนั้น เวลาที่ปวดไหล่ซ้าย ต้นคอ ลามไปถึงแขนซ้ายอาจจะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับอาการยกของไม่ได้เพราะปวดไหล่ หรือมีอาการปวดไหล่เรื้อรัง ไม่ควรปล่อยเอาไว้ แนะนำให้มารักษาที่ Bonefit Clinic เราให้บริการฟื้นฟูด้วยเทคนิคเฉพาะทาง โดยทีมแพทย์และนักกายภาพ พร้อมโปรแกรมฟื้นฟูเฉพาะบุคคลในราคาที่เข้าถึงได้
หากสนใจเข้ารับการประเมินอาการเบื้องต้น สามารถนัดหมายแพทย์เพื่อปรึกษาได้ที่ Bonefit Clinic กับ 2 สาขาของเรา ทั้งที่สาขาศรีนครินทร์ และสาขาราชพฤกษ์ โทร 092-629-7964, 095-251-5952 หรือผ่านทาง Line ID: @BONEFIT Clinic
ข้อมูลอ้างอิง